การพัฒนา ของ เอเอช-64 อาพาชี

เฮลิคอปเตอร์โจมตีที่ล้ำสมัย

หลังจากการยกเลิกเอเอช-56 เชยีนตามโครงการของกองทัพอากาศและกองนาวิกโยธินสหรัฐฯ อย่างเอ-10 ธันเดอร์โบลท์ 2 และแฮร์ริเออร์ จัมพ์ เจ็ท กองทัพบกสหรัฐฯ ได้มองหาอากาศยานที่จะมาทำหน้าที่ต่อต้านยานเกราะซึ่งอยู่ใต้คำสั่งของกองทัพบก ในข้อสัญญาคีย์เวสท์ในปีพ.ศ. 2491 ห้ามให้กองทัพบกบังคับการเครื่องบิน กองทัพบกต้องการอากาศยานที่ดีกว่าเอเอช-1 คอบราทั้งในด้านอำนาจการยิง การทำงาน และพิสัย มันอาจต้องสามารถบินเรียบตามพื้นได้[3] เมื่อมาถึงจุดนี้กองทัพบกสหรัฐฯ ได้ประกาศร้องขอเฮลิคอปเตอร์โจมตีใดๆ ก็ตามที่ทันสมัยขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515[4]

ข้อเสนอดังกล่าวมีบิษัทผู้ผลิตยอมรับทั้งสินห้าบริษัทด้วยกัน คือ เบลล์ โบอิง เวอร์ทอล (ทำงานร่วมกับกรัมแมน) ฮิวส์ ล็อกฮีด และซิคอร์สกี้ ในปีพ.ศ. 2516 กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้ทำการเลือกเบลล์และฮิวส์ [5]

แต่ละบริษัทสร้างเฮลิคอปเตอร์ต้นแบบและเข้าสู่โปรแกรมทดสอบการบิน แบบ 77/วายเอเอช-64เอของฮิวส์เริ่มทำการบินครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2518 ในขณะที่แบบ 409/วายเอเอช-61เอของเบลล์ทำการบินในวันที่ 1 ตุลาคม[5] หลังจากประเมินผลการทดสอบกองทัพบกได้เลือกวายเอเอช-64เอของฮิวส์ในปีพ.ศ. 2519 เหตุผลที่เลือกวายเอเอช-64เอยังรวมทั้งใบพัดหลักสี่ใบที่ทนทานกว่าและความไม่เสถียรของวายเอเอช-63[6]

เอเอช-64เอเข้าสู่ช่วงที่สองของโครงการ ขั้นตอนนี้มีเพื่อสร้างเอเอช-64 ก่อนการผลิตสามลำ และพัฒนาวายเอเอช-64เอต้นแบบสองลำและสำหรับทดสอบภาคพื้นดินหนึ่งลำ[7] อาวุธและระบบเซ็นเซอร์ยังถูกรวมและทำการทดสอบไปด้วย[5] มันยังรวมทั้งขีปนาวุธเฮลไฟร์แบบใหม่[7]

เข้าสู่การผลิต

ในพ.ศ. 2524 เอเอช-64เอสามลำก่อนการสร้างถูกยื่นให้กับกองทัพบกสหรัฐฯ ให้ทำการทดสอบครั้งที่สอง การทดสอบของกองทัพบกนั้นสมบูรณ์แต่ก็ได้ทำารตัดสินใจให้พัฒนาเครื่องยนต์ ที700-จีอี-701 แบบใหม่ที่ให้กำลัง 1,690 แรงม้า[5] ในช่วงท้ายพ.ศ. 2524 เอเอช-64 ถูกตั้งชื่อว่า"อาพาชี่"ตามเผ่าพื้นเมืองของอเมริกัน ฮิวส์ถูกนำเข้าผลิตอย่างเต็มรูปแบบในปีพ.ศ. 2525[5] ในปีพ.ศ. 2526 เฮลิคอปเตอร์ทำการผลิตครั้งแรกถูกนำเสนอที่ฮิวส์ในรัฐอริโซน่า ในพ.ศ. 2527 ฮิวส์ เฮลิคอปเตอร์ถูกซื้อโดยแมคดอนเนลล์ ดักลาสด้วยเงินจำนวน 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[8] เฮลิคอปเตอร์ตอ่มากลายมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทโบอิงด้วยผู้ประสานงานของโบอิงและแมคดอนเนลล์ในเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2540 ในปี 2529 ราคาที่เพิ่มขึ้นหรือบานปลายของเอเอช-64 คือ 7.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และราคาประมาณอยู่ที่ 13.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [8]

ในช่วงกลางถึงปลายปีพ.ศ. 2523 แมคดอนเนลล์ ดักลาสศึกษาแบบพัฒนาของ"เอเอช-64บี"ที่มีห้องนักบินแบบใหม่ ระบบควบคุมการยิงใหม่ และการพัฒนาอื่นๆ ในปี 2531 ได้มีการลงทุนเข้าโครงการพัฒนาเพื่อพัฒนาเซ็นเซอร์และอาวุธและระบบดิจิตอลต่างๆ อย่างไรก็ดีเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วก็ปรากฏตัว มันถูกตัดสินใจยกเลิกโครงการพัฒนา สิ่งนี้นำไปสู่เอเอช-64ดี อาปาเช่ลองโบว์ที่ดีกว่าในช่วงกลางถึงปลายปี 2533[9]

ในพ.ศ. 2547 บริษัทเจเนรัลอิเลคทริคเริ่มผลิตเครื่องยนต์ที700-จีอี-701ดีที่ทรงพลังมากขึ้น มันมีกำลัง 2,000 แรงม้า[10] ราคาทั้งสิ้นของโครงการเอเอช-64ดีอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดเดือนเมษายนพ.ศ. 2550[11]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เอเอช-64 อาพาชี http://www.smh.com.au/articles/2003/03/25/10483546... http://www.agustawestland.com/communication_det.ph... http://www.army-technology.com/projects/apache/ http://www.boeing.com/rotorcraft/military/ah64d/ne... http://www.cnn.com/2003/WORLD/meast/03/24/sprj.irq... http://www.deagel.com/Combat-Helicopters/AH-64D-Ap... http://www.defenseindustrydaily.com/676m-to-conver... http://www.defenseindustrydaily.com/kuwait-runs-ap... http://www.defenseindustrydaily.com/uaes-30helicop... http://defensenews.com/story.php?F=2297845&C=airwa...